เมื่อต้นเดือนเราได้ยินข่าวว่า ฟอร์ด ทรานสิทคอนเนค มันปรับปรุงช่วงของเครื่องยนต์และเสนออุปกรณ์เทคโนโลยีที่เป็นตัวเลือก ตามที่คาดไว้ ตอนนี้ฟอร์ดแจ้งว่าช่วงของ ฟอร์ด ทูร์นีโอ คอนเนคซึ่งเป็นรุ่นทัวริ่งของรถรุ่นนี้ จะทำการเปลี่ยนแปลงด้วยตัวมันเอง ซึ่งหมายถึงการมาถึงของเครื่องยนต์ซีรีส์ใหม่และอุปกรณ์ที่ครบครัน
ความแปลกใหม่ที่โดดเด่นที่สุดสำหรับ Ford Tourneo Connect คือการมาถึงของ ใหม่ 1.5 TDCi ดีเซลซึ่งกำลังทยอยมาในฟอร์ดทุกรุ่นแทน 1.6 TDCi เครื่องยนต์ Euro 6 นี้มาในรุ่นที่มีกำลังเพิ่มขึ้น 5 แรงม้า ในเวอร์ชั่นของ 100 และ 120 ม้า. นอกจากนี้ ผู้มีอำนาจสูงสุดอาจมี สวิตช์อัตโนมัติ คลัตช์คู่ PowerShift ดีเซลลดการบริโภคลงได้ถึง 7%
ช่วงน้ำมันเบนซินมีข้อ จำกัด มากขึ้น เครื่องยนต์ 1.6 EcoBoost หายไป 150 แรงม้าพร้อมเกียร์ PowerShift และตัวเลือกน้ำมันเพียงอย่างเดียวคือ 1.0 แรงม้า 100 EcoBoost สามสูบ ซึ่งมีให้เฉพาะใน Tourneo Connect ฐานล้อสั้นเท่านั้น
Ford Tourneo Connect มีความโดดเด่นในด้านอุปกรณ์มาตรฐานและซีรีส์ของ ตัวเลือกที่ไม่ธรรมดาในส่วนของมันแต่ตอนนี้มันโดดเด่นกว่าคู่แข่งทั้งหมดโดยตรง และเสนอให้เหมือนกับการท่องเที่ยวฟอร์ดอื่นๆ ระบบจดจำป้ายจราจร ระบบเตือนจุดบอด ความช่วยเหลือและเตือนการเปลี่ยนช่องทางเดินรถโดยไม่ได้ตั้งใจ และไฟต่ำและสูงอัตโนมัติมาที่รถตู้
ในระดับสาระบันเทิง จะเห็นการปรับปรุงด้วยการแนะนำของ ระบบสื่อ SYNC 2ซึ่งเปิดตัวหน้าจอสัมผัสสีขนาด 6 นิ้วที่ให้คุณจัดการฟังก์ชั่นต่างๆ ของรถได้ตลอดจนระบบนำทางและตัวเลือกที่น่าสนใจอื่นๆ ก็จะมีจำหน่าย ฟอร์ด MyKeyซึ่งช่วยให้คุณจำกัดฟังก์ชันบางอย่างของรถและเชื่อมโยงกับกุญแจได้ เช่น หากเด็กหรือพนักงานกำลังจะขับรถ
ไม่กี่เดือนที่ผ่านมาที่ ActualidadMotor เรามี โอกาสทดลองขับ Ford Grand Tourneo Connect 1.6 TDCi 115 แรงม้า และเราสามารถเห็นได้ว่ารถตู้คันนี้สามารถให้บริการหลายครอบครัวในรูปแบบมินิแวนได้อย่างไร ด้วยอุปกรณ์ที่โดดเด่นและระดับความปลอดภัยที่เป็นมาตรฐานในกลุ่มนี้ เราได้ทำการวิเคราะห์ที่สมบูรณ์ในการทบทวน ภายนอกและภายในของเขา พฤติกรรมแบบไดนามิก และ ช่วงและราคา ของ Tourneo Connect
Ford Tourneo Courier ก็ได้รับการปรับปรุงเช่นกัน
รถตู้ B-segment, the ฟอร์ด ตูร์นีโอ คูเรียร์, ยังได้รับการปรับปรุงมากมาย ปัจจุบันมีเครื่องยนต์ดีเซล 1.5 TDCi ขนาด 75 และ 95 แรงม้า ซึ่งโดดเด่นในด้านประสิทธิภาพระดับสูงด้วยอัตราการสิ้นเปลืองเฉลี่ย 3,7 ลิตร 1.0 EcoBoost รับ Stop & Start และลดการบริโภคลง 3% เป็น 5,1 ลิตร
ที่มา – Ford